พระพุทธศาสนากับเศรษฐศาสตร์
อาจารย์วินัย อ.ศิวะกุล
๗ สิงหาคม
๒๕๔๗
หลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
ความหมายของเศรษฐศาสตร์
เศรษฐศาสตร์ เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของสังคมศาสตร์
หมายถึงศาสตร์ที่ศึกษาการเลือกทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
เพื่อบำบัดความต้องการของมนุษย์ซึ่งมีไม่จำกัดให้เกิดคุณค่ามากที่สุดที่เรียกว่า VALUE
DEPENDENT จุดมุ่งหมายสนองความต้องการให้เกิดความพึงพอใจซึ่งเป็นเรื่องคุณค่าทางด้านจิตใจ
ส่วนเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ เป็นศาสตร์ที่จะนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดมาก่อให้เกิดประโยชน์ ในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง(สัมมามรรค) เพื่อนำไปบรรเทาหรือแก้ไขปัญหาชีวิต
และนำมาซึ่งความสงบสุขมั่นคงของบุคคลและสังคม ตัวกำหนดเศรษฐศาสตร์แนวพุทธคือ มัตตัญญุตา
ความรู้จักประมาณ
รู้จักพอดีในการบริโภค
หลักเศรษฐศาสตร์ด้านต่างๆ
ในการจัดการทรัพยากรนั้น เศรษฐศาสตร์จะเกี่ยวข้องในด้านหลัก ๓ ด้าน คือ
๑. การผลิต
มุ่งการผลิตเพื่อให้เกิดกำไรสูงสุด
๒. การตลาด
เป็นกระบวนการซื้อขาย
โดยผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้าราคาที่ถูกแต่ผู้ผลิตต้องการขายสินค้าในราคาแพง ในบางครั้งผู้ผลิตก็ค้ากำไรเกินควร โดยตั้งราคาสินค้าแพงกว่าความเป็นจริง หรือลดคุณภาพของสินค้าลง โดยการลดต้นทุน
๓. การบริโภค
สินค้าที่ผลิตออกมานั้น
มีจุดหมายเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค ส่วนผู้บริโภคเองก็มุ่งหาความพอใจในการบริโภคมากกว่าจะคำนึงถึงประโยชน์ของสินค้า
จนในบางครั้งอาจเกิดปัญหาการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย
สาระสำคัญ
๑. ความรู้ทั่วไปของพระพุทธศาสนาที่สัมพันธ์กับเศรษฐศาสตร์ ประกอบด้วยเนื้อหาสองส่วนคือ หลักพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์โดยตรง
กับเครื่องมือหรือหลักสัจธรรมในพระพุทธศาสนาที่สามารถนำไปประยุกต์ในการศึกษาเศรษฐศาสตร์ เพื่อเกิดความสงบสว่างต่อชีวิตและสังคม พร้อมด้วยเสรีภาพเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์และความบริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสและเพื่อประสบกับความสุขที่มั่นคงสถาพรอันเป็นสุขสูงสุดตลอดชีวิต
๒. หลักพระพุทธศาสนามีหลักวิชาการของเศรษฐศาสตร์ระดับจุลภาค ได้แก่ การผลิตการบริโภคและการตลาด ทั้งที่เป็นเนื้อหาโดยตรง
และการนำหลักพุทธธรรมไปประยุกต์ในการวิเคราะห์หลัก จุลเศรษฐศาสตร์ เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม
๓. หลักพระพุทธศาสนามีหลักวิชาการของเศรษฐศาสตร์มหภาค คือหลักเศรษฐศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยส่วนระดับในสังคม
และระหว่างประเทศระหว่างชาติปัจจุบันและชาติหน้า ตลอดจนสังคมในไตรภูมิ คือ
กามภูมิ รูปภูมิและอรูปภูมิ หลักการนี้เพื่อให้รู้จักการวางแผนชีวิตไปสู่ความมั่งคั่ง มั่นคงในสุคติภูมิ
พ้นจากทุคติภูมิที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบากในการดำรงชีวิต
๔. หลักพระพุทธศาสนามีหลักการพัฒนาเศรษฐศาสตร์กิจเชิงบูรณาการโดยมีศูนย์รวมอยู่ที่การพัฒนาชีวิตจิตใจ มีการรู้จักใจกว้างและมีโยนิโสมนสิการ
ในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจและให้ใช้กุศลจิตที่มีสติปัญญา
สัมมาทิฏฐิในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยอาศัยหลัก ๕
สหประสานในทางเศรษฐกิจ คือ
หลักการพัฒนาเศรษฐกิจต้องรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดยประสานกับคุณภาพของจิตใจ สุขภาพกายสิ่งแวดล้อม และสังคมทุกระดับ
๕. หลักพระพุทธศาสนามีหลักสัจธรรม
ที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเชิงระบบทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีกระบวนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยประยุกต์จากอริยสัจ ๔ คือ
๕.๑
ขั้นทำความเข้าใจปัญหาเศรษฐกิจอย่างถ่องแท้
๕.๒ ขั้นค้าหาสาเหตุของปัญหาเศรษฐกิจ
๕.๓ ขั้นกำหนดจุดหมายของการดับปัญหา
เศรษฐกิจ และ
๕.๔
ขั้นวางมาตรการและวิธีทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
โดยใช้หลักสัมมามรรคมีความเห็นถูกในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และมีการเลี้ยงชีพถูกต้องชอบธรรม
ในการพัฒนาเศรษฐกิจ
การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจตามแนวพุทธศาสน์
ต้องรู้จักใช้ความเฉลียวฉลาด(โกศล) ๔ ประการ
คือ
๖.๑
ต้องฉลาดในการป้องกันปัญหาเศรษฐกิจ
๖.๒
ต้องรู้จักแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างถูกวิธี
ถูกจังหวะและทันการณ์
๖.๓
ต้องฉลาดในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยใช้หลัก ๕ สหประสาน
๖.๔
ต้องฉลาดรักษาภาวะเศรษฐกิจที่ดีให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
* ๕ สหประสานทางเศรษฐกิจ คือ
ประสานระหว่าง
กาย
จิต
ทรัพยากร
สังคม
สิ่งแวดล้อม
ตารางเปรียบเทียบระหว่างสัมมาเศรษฐศาสตร์กับมิจฉาเศรษฐศาสตร์
สัมมาเศรษฐศาสตร์
|
มิจฉาเศรษฐศาสตร์
|
๑. อาศัยเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องชอบธรรม
๒. มีกุศลมูลนำในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
๓. รู้จักแยกกุศลสุขและอกุศลสุขในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
๔. รู้จักแยกเสรีภาพแท้และเทียมทางเศรษฐกิจ
๕. ใช้หลักทางสายกลางหรือรู้จักประมาณในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
๖. มุ่งกิจกรรมเศรษฐกิจให้มีผลผลิตทั้งรูปธรรมนามธรรมโดยมี
๕ สหประสานทางเศรษฐกิจ
๗. ใช้สติปัญญาและความซื่อตรงในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
๘. การบริหารเศรษฐกิจระดับประเทศโดยมีทศพิธราชธรรม
๑๐
๙. การบริหารเศรษฐกิจระหว่างประเทศโดยมีหลักจักรวรรดิธรรม ๑๒
|
๑. อาศัยเศรษฐกิจเป็นเป้าหมายของชีวิตเพื่อหาทรัพย์สินอย่างผิดศีล
๒. มีอกุศลมูลนำในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
๓. ไม่รู้จักแยกกุศลสุขและอกุศลสุขในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
๔. ไม่รู้จักแยกเสรีภาพแท้และเทียมทางเศรษฐกิจ
ยึดเสรีภาพเทียมว่าแท้
๕. ใช้หลักทางสายหย่อน (โลภะนำ) หรือทางสายตึง(โทสะนำ) ในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
๖. มุ่งใช้เศรษฐกิจเป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรไร้ผลผลิตที่เป็นประโยชน์ขาด
๕ สหประสานทางเศรษฐกิจ
๗. ใช้ความโลภและความคดโกงในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
๘. การบริหารเศรษฐกิจระดับประเทศโดยไม่มีทศพิธราชธรรม
๑๐
๙. การบริหารเศรษฐกิจระหว่างประเทศโดยไม่มีหลักจักรวรรดิธรรม
๑๒
|
การพัฒนาเศรษฐกิจตามหลักพุทธศาสตร์ ไม่ได้มุ่งพัฒนาวัตถุเป็นแกนกลางแต่มุ่งถึงการพัฒนาคนให้รู้จักการผลิต การบริโภค
การตลาด
ที่ถูกต้องทำนองคลองธรรมเป็นแกนกลาง
การผลิต
การตลาดและการบริโภคของประเทศที่ได้ชื่อว่าพัฒนาทางเศรษฐกิจ มีลักษณะขัดแย้งกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคน คือ
มีการผลิตที่เอารัดเอาเปรียบแรงงาน
การผลิตสินค้าที่ทำลายมนุษย์
เช่น ผลิต อาหาร
ที่มีสารที่เป็นพิษต่อร่างกาย
อาวุธยุทโธปกรณ์เป็นต้น
การผลิตที่ก่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
มีการบริโภคสินค้าที่ฟุ่มเฟือย
เผาผลาญทรัพยากรธรรมชาติการตลาดที่มุ่งเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค การโฆษณาสินค้าที่หลอกลวงผู้บริโภค ผลของการยึดวัตถุเป็นเครื่องวัดการพัฒนาประเทศ
ดังกล่าว
เป็นสาเหตุสำคัญให้คนเราตกเป็นทาสวัตถุ แก่งแย่งวัตถุ ก่อ อาชญากรรม
เป็นโรคจิต โรคประสาท
รัฐบาลของประเทศที่ได้ชื่อว่าพัฒนาได้เริ่มตระหนักว่าแนวความคิดการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเอาปริมาณสินค้าเป็นเครื่องวัดนั้นว่า มีข้อผิดพลาด
เพราะไม่ได้สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิต
กำลังปรับปรุงแนวความคิดการพัฒนาเศรษฐกิจอยู่ ได้มีนักเศรษฐศาสตร์ ชื่อ อี เอ๊ฟชูมาร์กเกอร์
ได้นำพุทธศาสตร์มาใช้โดยเน้นถึง
การพัฒนาคนให้รู้จักการผลิต
การบริโภคที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิต
สรุป
เศรษฐศาสตร์ที่มุ่งนิยมความมั่งคั่งทางวัตถุ
ได้ถูกตัณหาในวัตถุบงการซึ่งเป็นพื้นฐานที่ก่อให้เกิดปัญหา
ส่วนเศรษฐศาสตร์แนวพุทธศาสตร์เกิดขึ้นโดยอาศัยสติปัญญา
และความไม่โลภเป็นตัวผลักดันผลทำให้วิชาเศรษฐศาสตร์สัมพันธ์กับคุณภาพของชีวิต เพื่อความสุขมั่งคั่งและมั่นคงแก่ชีวิต หากนำเศรษฐศาสตร์แนวพุทธไปประยุกต์ใช้ ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจได้
-
นำใจ ๖ ส. มาเป็นแม่กุญแจ เพื่อไขพุทธเศรษฐศาสตร์แล้วนำ ๕ สห
ประสาน (ร่างกาย , จิตใจ , บุคคลหรือสังคม , สิ่งแวดล้อม
และทรัพยากร) เพื่อที่นำมาดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์มั่นคง มีสุขสงบตลอดไป
-
แนวคิดเศรษฐกิจระหว่างประเทศตามแนวพุทธศาสตร์ หลักพุทธศาสตร์ถือ
ว่าเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือของชีวิตและสังคม
และให้รู้จักนำเศรษฐกิจประสานกับการพัฒนาด้านอื่น ๆ
ของชีวิตและสังคมเพื่อความสงบสุขของชีวิตและสังคม
-
หลักรากฐานสันติภาพทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รากฐานสันติภาพทาง
เศรษฐกิจมาจากการมีหลักกุศลมูลสาบทางเศรษฐกิจ อันได้แก่
ความไม่โลภทางเศรษฐกิจ
ความไม่ใช้ความรุนแรงทางเศรษฐกิจ
และความมีปัญญาทางเศรษฐกิจ
และหลักพรหมวิหาร ๔ ทางเศรษฐกิจ
อันได้แก่ เมตตา กรุณา
มุทิตา และอุเบกขา ทางเศรษฐกิจ
-
หลักเศรษฐกิจปกครองระดับประเทศ และระหว่างประเทศ หลักเศรษฐกิจ
ปกครองระดับประเทศได้แก่ หลักทศพิธราชธรรม และระดับระหว่างประเทศ ได้แก่ หลักจักรวรรดิธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น