พระพุทธศาสนากับสังคมวิทยา
(BUDDHISM AND
SOCIOLOGY)
อาจารย์ปรีชา เมธาวัสรภาคย์
พุทธศาสตร์ศึกษาอะไร
v คำสอนของพระพุทธเจ้า
v คำอธิบายพระไตรปิฎก
v พระพุทธจริยวัตร
v จริยวัตรของพะรพุทธสาวกที่สำคัญ
v วิธีการที่จะได้มาซึ่งความรู้ความเข้าใจ ปริยัติ
ปฏิบัติ และปฏิเวธ
สังคมวิทยาศึกษาอะไร
SOCIOLOGY IS A BODY OF SCIENTIFIC
KNOWLEDGE ABOUT HUMAN RELATIONSHIPS : JONH F.CUBER,1968.
o
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เป็นความสัมพันธ์แบบปฏิสัมพันธ์
o
ศึกษากระบวนการอยู่ร่วมกันของบุคคลในสังคม
o วิธีการที่จะได้มาซึ่งความรู้ความเข้าใจ ของทั้งสองศาสตร์เป็นประเด็นหลัก
กระบวนการศึกษาทางสังคมวิทยา
|
ระดับทฤษฎี
(THEORETICAL
LEVEL)
วิธีอุปนัย วิธีนิรนัย
(EMPIRICAL RESEARCH) (DEDUCTIVE METHOD)
|
(EMPIRICAL LEVEL)
วิทยาศาสตร์มีความหมายอยู่ ๒
ประการ
Ø เป็นผลรวมของความรู้ มีการจัดหมวดหมู่และพิสูจน์ได้ความรู้
ดังกล่าวต้องพิสูจน์และเรียนรู้ได้
Ø เป็นวิธีการศึกษาซึ่งทำให้เกิดผลรวมของความรู้
กระบวนการ
INPUT OUTPUT
สิ่งอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้เป็นนามธรรม เป็นเหตุเป็นผล
วิธีการศึกษาของ “สังคมวิทยา”
และ “พุทธศาสตร์”
การศึกษาทางสังคมวิทยา ประกอบด้วย
ลักษณะสำคัญ ๔ ประการ
Ø เชิงประจักษ์ : สมมติฐาน
เป็นการพิสูจน์ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง ๕
Ø ความมีเหตุผล
: เพื่อวิเคราะห์ความหมายมโนทัศน์โดยวิธีการนิรนัยและอุปนัย
กล่าวคือแนวคิดพระพุทธเจ้าที่ว่า มนุษย์มีจริตที่แตกต่างกันบนพื้นฐานจริตของมนุษย์
Ø การค้นหากฎทั่วไป : หรือกฎสากลเพื่อจุดสูงสุดทางวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับสังคมวิทยา
· สังคมวิทยาเป็นการสร้างจุดร่วม
โดยศึกษาพฤติกรรมมนุษย์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้จริตมนุษย์
มีการจัดหมวดหมู่ต่างๆ (ในพระไตรปิฎก)
Ø การสะสมความรู้ : ศึกษาว่าในสังคมวิทยาในอดีตมีอะไร
: เป็นลักษณะโครงร่างชั่วคราว(สังคมวิทยา)
:
ในพระพุทธศาสนา
เป็นอกาลิโก (เป็นสิ่งที่ปฏิบัติ ได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล) แต่สังคมวิทยาขึ้นอยู่กับเวลา เพราะฉะนั้น
จึงเป็นลักษณะ
โครงร่างชั่วคราวจึงไม่เป็นความจริงสูงสุด
เป็นเพียงความ น่าจะเป็น
พุทธศาสนาเชื่ออะไร
1.
เชื่อกรรม(กัมมสัทธา) ตรงกับสังคมวิทยา : ลงมือกระทำ
2.
เชื่อผลของกรรม(วิปากสัทธา)
3.
เชื่อว่าบุคคลมีกรรมเป็นของตน(กัมมัสสกตาสัทธา)
4.
เชื่อว่าความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า(ตถาคตโพธิสัทธา)
สังคมวิทยาแนวพุทธ
Ø แนวคิดเกี่ยวกับความจริงของโลก
: ในระดับทฤษฎี
Ø การพิสูจน์แนวคิดจากการค้นหาหลักฐานในชีวิตจริง(ระดับการวิจัย)
ระดับทฤษฎี
o
ขั้นกำหนดสาเหตุของปัญหาหรือ สมุทัย
o
ขั้นกำหนดสมมติฐานหรือ นิโรธ
o
ขั้นกำหนดปัญหาหรือ ทุกข์
ระดับการวิจัย(มรรค)
o
ขั้นแสวงหาข้อพิสูจน์หรือข้อมูล(เอสนา)
o
ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล(วิมังสา)
o
ขั้นสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล(อนุโพธ)
กระบวนการศึกษาปรากฏของโลกตามแนวพุทธ
v ระดับทฤษฎี : แนวคิดเกี่ยวกับความจริงของโลก
v ระดับข้อเท็จจริง : หลักฐานจากข้อเท็จจริง
**
ทั้งสองทฤษฎีมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ความรู้ของพระพุทธศาสนา
1.
สุตมยปัญญา
ความรู้ที่ได้จากการศึกษาเล่าเรียน
เป็นความรู้ระดับทฤษฎี
2.
จินตามยปัญญา ความรู้เกิดจากการวิเคราะห์
เป็นไปเพื่อให้เกิดปัญญา
3.
ภาวนามยปัญญา ความรู้จากประสบการณ์ตรง
หลักการของพระพุทธศาสนา
กับ สังคมวิทยา
1.
คำสอนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคม
2.
บทบาทของพุทธศาสนาที่มีต่อบุคคลและสังคม
v บทบาทหน้าที่ต่อบุคคล
:
เพื่อสนองความต้องการอยากรู้อยากเห็น
, สนองความต้องการในด้านการแสดงออก , สนองความต้องการในสิ่งที่เป็นสาระ
v บทบาทหน้าที่ต่อสังคม
:
เป็นสื่อในการอบรมให้รู้ระเบียบสังคม
, เป็นสื่อในการควบคุมสังคม , เป็นสื่อในการทำให้สังคมเป็นปึกแผ่น
, เป็นสื่อในการกำหนดความเป็นสมาชิกของสังคมและเป็นสถาบันสวัสดิการทางสังคม
ขอบเขตของสังคมวิทยาแนวพุทธศาสตร์
**
เพื่อตรงกับศาสตร์สมัยใหม่หรือบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ **
สรุป สังคมวิทยาและพุทธศาสตร์
v เป็นทฤษฎีที่อยู่บนเส้นทางเดียวกัน
หรือความจริงเหมือนกัน
v บทสรุป
o
สังคมวิทยาคือความน่าจะเป็น
o
พุทธศาสนาคือความจริงสูงสุด
เป้าหมาย
1. เป้าหมายของสังคมวิทยาอยู่ที่มนุษย์สมบัติ
2. เป้าหมายของพุทธศาสตร์อยู่ที่นิพพานสมบัติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น